Skip to content Skip to footer

อิ๊กซี่ (ICSI) รักษาผู้มีบุตรยาก ตอบโจทย์คู่สมรสยุคใหม่

อิ๊กซี่ (ICSI) รักษาผู้มีบุตรยาก ตอบโจทย์คู่สมรสยุคใหม่

เรื่องการมีบุตรยาก เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจสำหรับคู่สมรสหลายๆ คู่แต่ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การแพทย์เจริญก้าวหน้าไปมาก ทำให้ปัญหานี้มีทางออก หนึ่งในนั้นคือ การทำอิ๊กซี่ (ICSI) หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection ที่กำลังได้รับความนิยมมาก
แพทย์หญิงปรวัน ตั้งธรรม หรือ หมอมิ้งค์ สูติ-นรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ปัจจุบันประจำอยู่ที่ เจเนซีสเฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (Genesis Fertility Center: GFC) ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร เผยถึงสาเหตุของผู้มีบุตรยาก ว่าหลักๆ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือ สาเหตุจากทางฝ่ายหญิง เช่น มีความผิดปกติของรังไข่ ซึ่งมีหลายกลุ่มโรค เช่น ช็อกโกแลตซีสต์ พอมีซีสต์ที่รังไข่ก็ทำให้กระบวนการไข่ตกยากขึ้น หรือคนที่มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง โรคถุงน้ำรังไข่ นอกจากนั้นอาจมีความผิดปกติของมดลูก เช่น มีเนื้องอกมดลูกที่จะรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน และกลุ่มฮอร์โมนผิดปกติ ที่สำคัญคือ อายุของฝ่ายหญิง ที่จะมีผลต่อคุณภาพของไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นคุณภาพของไข่ก็จะยิ่งลดลง ส่วนสาเหตุของฝ่ายชาย หลักๆ เลย คือเรื่องน้ำเชื้อ ถ้าน้ำเชื้อมีจำนวนตัวอสุจิน้อย เคลื่อนไหวไม่ดีหรือรูปร่างผิดปกติ จะทำให้มีลูกยาก หรือบางคนก็รุนแรงถึงขั้นเป็นหมัน คือมีน้ำเชื้อออกมาแต่ไม่มีตัวอสุจิเลย บางคู่เจอสาเหตุของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
“จำนวนของผู้มีบุตรยาก เท่าที่ทำการศึกษามามีประมาณ 10-15% ของประชากรไทยที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องมีบุตรยาก ซึ่งยังมีในส่วนของผู้มีบุตรยากแต่ไม่ได้เข้ามาปรึกษาอีก จึงไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามหลักการแล้วคู่สมรสที่แต่งงานกันแล้วหนึ่งปีและมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้คุมกำเนิดใดๆ ยังไม่สามารถมีบุตรได้ ถือว่าเป็นผู้มีภาวะมีบุตรยาก
คู่แต่งงานบางคู่อาจรู้เองได้ แต่ก็มีบางคู่ที่อยากจะเช็คก่อนว่าเรามีปัญหาอะไรไหม ก็จะมีการตรวจเบื้องต้นก่อนทั้ง
สองฝ่าย เช่น ของผู้หญิงตรวจอัลตร้าซาวนด์ ประเมินมดลูกและรังไข่ บางรายอาจฉีดสีดูท่อนำไข่ว่าท่อรังไข่ตันหรือไม่ บางรายอาจเจาะเลือดดูฮอร์โมนการทำงานของรังไข่ สำหรับฝ่ายชายจะส่งตรวจน้ำเชื้อ บางคู่แต่งงานยังไม่ถึงหนึ่งปีแต่อยากมีลูกเลยมาเช็คก่อน ก็อาจจะเจอปัญหา ซึ่งถ้าเจอปัญหาเร็ว ก็สามารถแก้ไขได้เร็ว โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงอายุ 35 ปี จะเป็นขาลงของภาวะการเจริญพันธุ์ ถึงแม้ว่าผู้ชายไม่ได้มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ถ้าอายุมากถึง 50-60 ปี น้ำเชื้ออาจด้อยคุณภาพลง”
แพทย์หญิงปรวัน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันวิวัฒนาการในประเทศไทยเราเรื่องรักษาการมีบุตรยาก อยู่ในระดับชั้นนำเรียกว่ามีครบทุกอย่างที่วิวัฒนาการในโลกนี้จะมี ตั้งแต่เรื่องการรักษาเบื้องต้นเช่น ฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) การทำเด็กหลอดแก้ว IVF หรือ ICSI บ้านเรามีเครื่องมือครบทุกอย่าง ที่เพิ่มเติมจากการทำเด็กหลอดแก้ว ก็คือการตรวจโครโมโซมหรือพันธุกรรมตัวอ่อน เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสการฝังตัวของตัวอ่อน ลดโอกาสการแท้ง และเมื่อตั้งครรภ์แล้ว โอกาสที่จะได้ลูกที่มีความปกติสูงกว่าไม่ได้ตรวจ เช่น กลุ่มอาการดาวน์ เป็นต้น ถ้าเราเลือกตัวอ่อนที่ปกติย้ายเข้าไปในมดลูกได้ โอกาสท้องก็จะสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันวิวัฒนาการนี้เข้ามามีบทบาทเยอะขึ้น เพราะผู้มีบุตรยากเวลาจะท้องเขาก็อยากได้บุตรที่มีความสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีในกลุ่มผู้ชายที่เป็นหมัน เราก็สามารถผ่าตัดเจาะเข้าไปที่อัณฑะเพื่อเอาตัวอสุจิที่อยู่ในอัณฑะนี้ออกมา ทำให้ผู้ชายที่เป็นหมันสามารถมีลูกได้

มีบุตรยาก

“การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรียกรวมๆ ว่าเด็กหลอดแก้วแต่ภาษาอังกฤษจะมีสองคำ คือ IVF กับ ICSI หลายคนยังงงอยู่ว่ามันต่างกันอย่างไร IVF เรายังต้องอาศัยความสามารถให้อสุจิเจาะไข่เองได้ คือเก็บอสุจิออกมา หลังผ่านการเตรียมแล้ว เราเอามาใส่รวมกันในถาดทดลอง ให้เขาเจาะกันเอง แต่ถ้าเป็น ICSI เราจะคัดเฉพาะอสุจิตัวที่สมบูรณ์ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงเลย เพราะฉะนั้นถ้าเทียบกันแล้ว ICSI จะเพิ่มความสามารถในการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิได้มากกว่า ปัจจุบันที่นี่เราทำ ICSI 100% จะไม่มีการทำ IVF แล้ว เพราะถ้าเทียบวิวัฒนาการและความสำเร็จของเทคนิควิธีนี้ ICSI สูงกว่า เราเลยเลือกที่จะทำ ICSI ทั้งหมด ปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ไหนทำ IVF แล้ว”
สำหรับอัตราส่วนของความสำเร็จการทำ ICSI ตามมาตรฐานจะอยู่ที่ 30-35% ที่จะตั้งครรภ์ แต่ที่ GFC อัตราความสำเร็จในการทำ ICSI ของเราจะอยู่ที่ประมาณ 50% ถ้าฝ่ายหญิงเข้าเกณฑ์สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนด้วยและเราได้ใส่ตัวอ่อนที่ปกติกลับสู่โพรงมดลูก อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์จะสูงขึ้นถึง 70-75% เลยทีเดียว
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จมีหลายอย่าง หลักๆ เลยขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เองว่าสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยากมีมากน้อยแค่ไหน เช่น ถ้าฝ่ายหญิงอายุน้อยและฝ่ายชายน้ำเชื้อไม่ได้ผิดปกติมาก โอกาสก็จะดี แต่ถ้าฝ่ายหญิงอายุขึ้นเลขสี่
แล้ว ไข่ก็เหลือน้อย คุณภาพไม่ดี หรือฝ่ายชายน้ำเชื้อน้อยมาก รูปร่างผิดปกติ โอกาสก็จะยิ่งลดลงไป ตามสาเหตุของแต่ละคู่”
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การรักษาปัญหามีบุตรยากประสบความสำเร็จได้ แพทย์หญิงปรวัน กล่าวว่า คือวิวัฒนาการทางการแพทย์ เทคโนโลยี มาตรฐานการรักษาและประสบการณ์ ความชำนาญของทีมแพทย์และทีมนักวิทยาศาสตร์ คือทั้งทีมแพทย์และทีมนักวิทยาศาสตร์หรือทีมแลปต้องประสานงานกันได้เป็นอย่างดี เริ่มจากแพทย์จะดูแลช่วงการกระตุ้นไข่ การวางแผนปริมาณยาที่เหมาะสมในการกระตุ้นไข่ให้ได้จำนวนและคุณภาพที่ดีที่สุด การเก็บไข่ เก็บอสุจิออกมา จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของทีมแลปที่ต้องคอยเลี้ยงดูตัวอ่อนให้รอด คือต้องทำ ICSI เลี้ยงตัวอ่อนไปจนถึงระยะที่ประสบความสำเร็จได้ จากนั้นแพทย์ก็มาต่อท้าย คือการย้ายตัวอ่อนเข้าไปในมดลูกอีกที การทำ ICSI ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่กระตุ้นไข่ ย้ายตัวอ่อน ก็จะทราบผลว่าท้องหรือไม่
“GFC เป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ทีมแพทย์ส่วนใหญ่มาจากโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ จบด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์โดยตรง เราทำงานกันเป็นทีม โดยเมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยการทำ ICSI เราจะมีการรายงานผลตัวอ่อนให้คนไข้ทราบทุกวัน เพื่อที่จะได้ทราบความเป็นไปและการเจริญเติบโตของตัวอ่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดนี้คนไข้หลายท่านชื่นชอบมากๆ รู้สึกอุ่นใจ เหมือนได้เห็นอนาคตลูกของตัวเองทุกๆ วัน และสามารถซักถามประเด็นสงสัยจากนักวิทยาศาสตร์ได้ตลอดผ่านทางทางไลน์ ส่วนทีมพยาบาล นอกจากจะดูแลอย่างใกล้ชิด และให้ข้อมูลการรักษาในวันที่คนไข้มาพบแพทย์แล้ว ทีมพยาบาลยังสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชม. หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือข้อสงสัย ก็สามารถสอบถามได้ทันที นอกจากนี้ เรายังมีการเตือนเวลาฉีดยาคนไข้ทางไลน์/โทรศัพท์ เพื่อให้คนไข้ฉีดยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา ซึ่งการฉีดยาตรงเวลานี้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จมากขึ้น อีกทั้งสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ 02-1086413-14 หรือ 097-4845335 คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.genesisfertilitycenter.co.th, https://www.facebook.com/GFC.Bangkok”
ท้ายสุด แพทย์หญิงปรวัน แนะนำให้คู่แต่งงานที่วางแผนจะมีบุตร ควรมาตรวจร่างกาย เตรียมความพร้อม หากพบปัญหาและสาเหตุเบื้องต้น เพื่อให้แพทย์พิจารณาและรีบแก้ไขเสียแต่เนิ่นๆ อีกทั้ง ขณะนี้เทคโนโลยีทางการรักษาก้าวหน้ามากแล้ว ค่าใช้จ่ายจึงไม่สูงมาก และการทำจะประสบผลสำเร็จสูง
 
ข้อมูลที่มา http://www.naewna.com/lady/363021