Skip to content Skip to footer

เด็กที่เกิดโดยธรรมชาติและเด็กหลอดแก้วต่างกันไหม

เด็กที่เกิดโดยธรรมชาติและเด็กหลอดแก้วต่างกันไหม

เปรียบชัดๆ เด็กหลอดแก้วกับเด็กเกิดธรรมชาติ

การทำเด็กหลอดกลายเป็นทางเลือกการรักษายอดนิยมสำหรับคู่รักที่มีบุตรยากและอยากมีลูก  เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์นี้ ได้ช่วยเหลือคู่รักหลายล้านคู่ทั่วโลกสำหรับการตั้งครรภ์และเริ่มต้นครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบ แต่คำถามหนึ่งมักพบบ่อยอยู่เสมอก็คือ เด็กที่เกิดโดยธรรมชาติกับเด็กหลอดแก้วต่างกันหรือไม่

จริงหรือไม่เด็กหลอดแก้วต่างกับเด็กเกิดโดยธรรมชาติ 

แม้ว่าเด็กที่เกิดจากเด็กหลอดแก้ว จะเป็นเด็กที่เกิดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ของการปฏิสนธิเกิดขึ้น โดยที่เอ็มบริโอไม่ได้ถูกสร้างขึ้นภายในร่างกายของผู้หญิง ส่วนสเปิร์มจะถูกหลอมรวมกันในสภาพห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านตัวอ่อน แทนที่จะเป็นท่อนำไข่ 
หรือกระทั่งการปฏิสนธิของการทำเด็กหลอดแก้วก็เกิดขึ้นในหลอดทดลอง เมื่อเอ็มบริโอถูกสร้างขึ้นโดยการหลอมรวมของสเปิร์มและไข่ในห้องแล็บ ตัวอ่อนจะถูกย้ายไปยังมดลูก ซึ่งเป็นที่ที่ตัวอ่อนถูกอุ้มและเลี้ยงดูเหมือนทารกที่ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ จึงทำให้เด็กที่เกิดจากเด็กหลอดแก้ว ลักษณะทางร่างกายและจิตใจของทารกจึงไม่มีความแตกต่างกันกับเด็กที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยมีข้อมูล ดังนี้ 

โอกาสตั้งครรภ์ผิดปกติไม่ต่างกันมาก 
จากการศึกษาต่างๆ พบว่าเปอร์เซ็นต์ของการตั้งครรภ์ผิดปกติในการปฏิสนธิตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 4% ส่วนการทำเด็กหลอดแก้ว ตัวเลขนี้จะสูงกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ 7-8% โดยความแตกต่างนี้อาจเนื่องมาจากอายุโดยทั่วไปที่สูงขึ้นของผู้ที่ทำเด็กหลอดแก้ว 

เด็กหลอดแก้วเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารก 
จะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในที่อาจส่งผลต่อความผิดปกติ เช่น ข้อบกพร่องของโครโมโซมหรือทางพันธุกรรมในตัวอสุจิหรือไข่อาจส่งผลให้ทารกผิดปกติได้ แต่ความเสี่ยงนี้มีอยู่ในทั้งการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติและการตั้งครรภ์ที่ทำเด็กหลอดแก้ว 

การพัฒนาเอ็มบริโอส่งผลต่อความผิดปกติโครโมโซม 
ไม่ว่าจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติหรือผ่านการทำเด็กหลอดแก้ว เริ่มต้นจากเซลล์เดียวที่แบ่งตามการแบ่งเซลล์ หากส่วนเล็กๆ ของโครโมโซมหายไปหรือมีการแบ่งตัวไม่เท่ากัน อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของโครโมโซมได้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจะเท่ากันทั้งในการตั้งครรภ์ผ่านการทำเด็กหลอดแก้วและการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ

สุขภาพโดยรวมเด็กหลอดแก้วอ่อนแอจริงหรือไม่
การศึกษาจำนวนมากจากการวิจัย และตีพิมพ์  ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open เด็กที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้วกับเด็กที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยทั่วไปจะมีสุขภาพที่ดีพอๆ โดยการวิจัยได้นำเด็กทั้งสองประเภทจำนนวนมากกว่า 1.5 ล้านคน มาเปรียบเทียบด้านสุขภาพ  พบว่าผลลัพธ์ด้านสุขภาพโดยรวมของทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจน

เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีปัญหาสุขภาพจริงไหม 
 การศึกษาถึงเมื่อเด็กหลอดแก้วเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับปัญหาระบบทางเดินหายใจ ระบบเผาผลาญ การเจริญเติบโต หรือหัวใจ  โดยจะมีประชากรที่มีบุตรยากโดยทั่วไป จะมีโอกาสะ 3-5% ที่มีโอกาสมีบุตรบกพร่องตั้งแต่กำเนิด และมีอัตราความพิการแต่กำเนิดเพิ่มขึ้นประมาณ 1% หลังจากรอบการผสมเทียม

ความสูงและน้ำหนักต่างกันหรือไม่ 
การศึกษาพบว่าผู้ที่ตั้งครรภ์โดยทำเด็กหลอดแก้ว โดยเฉลี่ยจะให้กำเนิดทารกตัวสั้นและน้ำหนักเบาตั้งแต่วัยทารกจนถึงวัยรุ่นตอนต้น เมื่อเทียบกับเด็กรุ่นเดียวกันที่ตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้มีเพียงเล็กน้อยในทุกช่วงวัยและจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้นและ

เด็กหลอดแก้ว มีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กทั่วไปจริงหรือไม่
ทุกขั้นตอนและกระบวนการเกิดทำให้เกิดการปฏิสนธินั้น แพทย์ผู้ดูแลจะทำการคัดเลือกไข่และสเปิร์มที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุดมาฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง ซึ่งในขั้นตอนจะมีการคัดกรองโครโมโซมที่ช่วยลดอัตราเสี่ยงของทารกที่มีอาการดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย กล้ามเนื้อลีบ ทำให้เด็กที่เกิดมาจากเด็กหลอดแก้วมีพัฒนาหาที่ไม่ได้แตกต่างจากเด็กทั่วไป

เมื่อเด็กหลอดแก้วเติบโตจะมีสุขภาพดีหรือไม่
การศึกษาจากอิสราเอล เจาะลึกกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดจากการเด็กหลอดแก้ว โดยประเมินสุขภาพทางการแพทย์และสุขภาพจิตของแต่ละคน รวมถึงความสามารถทางสติปัญญา พบว่าไม่ได้มีความแตกต่างกับเด็กที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเป็นการศึกษาคนหนุ่มสาวที่กำลังเกณฑ์ทหารในระหว่างปี 1982 – 1993  วัยรุ่นทั้งหมด 253 คนที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 20 ปี โดยเป็นเด็กที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว 158 คน และเด็กที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ 95 คน ที่กำลังรับราชการทหารถือเป็นข้อบังคับ และทุกคนต้องผ่านการประเมินประวัติทางการแพทย์และจิตเวชก่อนร่างอย่างเข้มงวด

โอกาสในการคลอดบุตรที่มีสุขภาพแข็งแรงหลังการทำเด็กหลอดแก้ว นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ 

  • อายุของคุณแม่ ยิ่งแม่อายุน้อย โอกาสตั้งครรภ์และให้กำเนิดทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงโดยใช้ไข่ของตัวเอง จะทำให้การเกิดปฏิสนธิสูงขึ้น ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปมักได้รับคำแนะนำของคลินิกผู้มีบุตรยากให้ เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ 
  • การฝังตัวอ่อน มีความสัมพันธ์กับอัตราการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเอ็มบริโอที่พัฒนาน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเอ็มบริโอทุกตัวจะอยู่รอดได้ในระหว่างกระบวนการพัฒนา
  • สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก การมีไข่ในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยเพิ่มโอกาสที่แม่จะตั้งครรภ์โดยใช้วิธีทำเด็กหลอดแก้ว แต่ผู้หญิงที่ปัญหาจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อย่างรุนแรง มีโอกาสน้อยที่จะตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ การสูบบุหรี่สามารถลดโอกาสในการประสบความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วได้ ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มักจะมีไข่น้อยลงซึ่งสามารถเก็บได้ในระหว่างโปรแกรมเด็กหลอดแก้ว และอาจประสบกับการแท้งบุตรบ่อยขึ้น
  • โรคอ้วนยังสามารถลดโอกาสในการตั้งครรภ์และมีลูกได้ เพราะผู้หญิงที่อ้วนมากอาจมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ ทำให้มีการรบกวนการทำงานของระบบสืบพันธุ์ รวมถึงผู้ที่บริโภคแอลกอฮอล์ ยา คาเฟอีนมากเกินไป และยาบางชนิดก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน

การทำเด็กหลอดแก้วมีกี่วิธี

การทำเด็กหลอดแก้ว (Assisted Reproductive Technology – ART) ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธ์หลายวิธีตามความต้องการและสภาพสุขภาพของคู่รัก ซึ่งแพทย์จะใช้ดุลยพินิจในการรักษาภาวะมีบุตรยากของคู่รักแตกต่างกัน  ดังนี้

  • การทำ IVF (IVF – In Vitro Fertilization) นั้นเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยจะนำไข่และเชื้ออสุจิมาปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ซึ่งอสุจิจะว่ายมาปฏิสนธิกับเซลล์ไข่เองตามธรรมชาติ
  • การทำอิ๊กซี่ (ICSI) หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection คือเทคนิคการปฏิสนธิภายนอกร่างกายที่มักถูกใช้ในการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีเด็กหลอดแก้ว   โดยจะนำไข่และเชื้ออสุจิมาปฏิสนธิภายนอกร่างกายใช้เข็มฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง 
  • การทำกิฟต์ Gamete Intrafallopian Transfer (GIFT): เป็นเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ โดยการดูดเอาไข่ที่ถูกกระตุ้นออกมาจากรังไข่ แล้วนำมาผสมกับตัวอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้วจะนำเอาไข่และอสุจิที่สมบูรณ์มาผสมกัน และฉีดกลับเข้าไปในท่อนำไข่ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกันตามธรรมชาติ 

หากคุณเป็นคู่รักที่กำลังตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อเตรียมตัวทํา icsi ivf thailand กับ Genesis Fertility Center หรือ GFC ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยาก มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาช่วยการเจริญพันธ์ให้กับคู่รักที่มีบุตรยาก ด้วยความเชี่ยวชาญที่ผสานความใส่ใจของทีมแพทย์และบุคลากรในการทำกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ด้วยวิธี icsi ราคา 190,000บาท ราคาฝากไข่ หรือ egg freezing  150,000 บาท  และมีบริการตรวจอสุจิ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
Call Center 097-484-5335
เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น. หรือ
เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น